หน้าแรก



วงการแพทย์ ในต่างประเทศ เริ่มให้ความสนใจ เอนไซม์ เพิ่มขึ้นตามลำดับ...
    
นักวิทยาศาสตร์ ได้สนใจศึกษาเอนไซม์กันค่อนข้างมาก ในระยะ 20 ปี ที่ผ่านมา และวงการแพทย์ ในต่างประเทศ เริ่มให้ความสนใจ เอนไซม์ เพิ่มขึ้นตามลำดับ ถึงความสามารถของเอนไซม์ ในการป้องกันและบำบัดโรค และยอมรับว่าเอนไซม์ คือ พลังงานสำคัญต่อชีวิต (Life Force)

โรคทุกโรค ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจาก เอนไซม์ ในร่างกายบกพร่อง...
     จากผลการศึกษา ค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งรวบรวมโดย ดร.เอ็ดเวิด โฮเวล ได้สรุปถึงความสำคัญ ของเอนไซม์ไว้ว่า การมีระดับเอนไซม์ต่ำ (Low-Enzyme-Level-LEL) คือ ฆาตกรอันดับหนึ่ง  ซึ่งคร่าชีวิตมนุษย์ได้มากกว่า โรคเอดส์ โรคมะเร็ง โรคหัวใจ และอุบัติเหตุรวมกัน
เพราะผลการศึกษาได้ชี้ว่า โรคทุกชนิดตั้งแต่ มะเร็ง จนกระทั่งเป็นหวัดคัดจมูก มีรากฐานอย่างเดียวกัน คือ เกิดจากระดับเอนไซม์ต่ำ (LEL)

 
สาเหตุของ เอนไซม์บกพร่อง...
   
การที่รางกายเรา มีเอนไซม์บกพร่อง เกิดมาจากหลายสาเหตุ เช่น
1. การกินอาหารที่ปรุงแต่งสำเร็จ เพราะเอนไซม์ในอาหารจะถูกทำลาย จากการปรุงสำเร็จ หรือเอามาหุงต้ม

2. ธรรมชาติสร้างตัวห้ามการทำงานของเอนไซม์ ไว้กับพืช จำพวก ยอดใบไม้ ยอดผัก พืชที่ยังอ่อน เมื่อรับ
   ประทานเข้าไปมาก จะเข้าไปห้ามการทำงานของเอนไซม์
ที่ผลิตจากตับอ่อน กลายเป็นมีเอนไซม์ติดลบ
3. เมื่ออายุมากขึ้น การผลิตเอนไซม์ของร่างกาย จะลดลง จากการวิจัยโดยนักวิทยาศาสตร์ ในสหรัฐอเมริกา
   พบว่า คนหนุ่มสาว มีเอนไซม์ มากเป็น 30 เท่าของผู้สูงอายุ และ เด็กมีมากเป็น 100 เท่าของผู้สูงอายุ
 

เอนไซม์ กับ โรคมะเร็ง...
    
ในปี ค.ศ.1911 ดร.จอห์น เบี๊ยด ได้รายงานผลสำเร็จ ของการใช้เอนไซม์รักษาโรคมะเร็งในมนุษย์ และอีก 80 ปี ต่อมา ในปี ค.ศ.1987 ดร.กอนซาเลซ ได้ทำรายงานถึง ผลสำเร็จของการรักษา มะเร็งเต้านม ซึ่งมะเร็งได้กระจายไปที่สมอง และตับ ผู้ป่วยได้รับการรักษา โดยใช้เอนไซม์เป็นหลัก ปรากฎว่ามะเร็งหายไป

และผู้ป่วยอีกราย ซึ่งป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ก็กลับมามีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ ดร.กอนซาเลส ได้รับเงินทุนวิจัย  1.4 ล้านเหรียญสหรัฐ จากสถาบันมะเร็งแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หลังจากเขาได้เสนอรายงานครั้งนี้ เรื่องทั้งหมดนี้ถูกตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์วอชิงตันไทม์ ฉบับวันที่ 8 เมษายน ค.ศ.2001


เอนไซม์ กับ โรคเอดส์...
     ดร.จอห์น ไกเซอร์ ซึ่งมีชื่อเสียงระดับประเทศของอเมริกา ได้รายงานผลการรักษาผู้ป่วยโรคเอดส์ โดยใช้ยาที่มีเอนไซม์โปรตีเอส ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า มีผลดีในการกำจัดเชื้อไวรัสเอดส์ และทำให้ภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยฟื้นตัวขึ้น สามารถหยุดการแบ่งตัวของเชื้อไวรัสได้ถึงร้อยละ 99  อธิบาย ตามหลักทฤษฎีว่า เพราะเอนไซม์โปรตีเอสบางชนิด จะย่อยโปรตีนที่ห่อเชื้อไวรัสเอดส์ ทำให้เชื้อไวรัสเอดส์ ไม่มีที่หลบซ่อนจากภูมิคุ้มกันของร่างกาย

เอนไซม์ กับ ระบบไหลเวียนของโลหิต...
ดร.แมกซ์ วูฟ ชาวเยอรมันอาจารย์มหาวิทยาลัยฟอร์ดแฮม ได้รายงานผลการทดลองใช้เอนไซม์กับคนไข้ 347 คนที่เจ็บป่วยเกี่ยวกับระบบไหลเวียนของโลหิต พบว่าร้อยละ 87 ของผู้ป่วยที่มีอาการผิดปกติ หายสนิท หรือ ดีขึ้นมาก ภายหลังกินเอนไซม์เสริม
     ดร.เอช เดนซ์ อาจารย์แพทย์ชาวออสเตรีย ได้ใช้เอนไซม์รักษาคนไข้ ที่มีเลือดจับเป็นก้อน พบว่าร้อยละ 93 ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
     ดร.คาร์ล เมเดอร์ นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน รายงานผลการรักษาคนไข้ 216 คนที่เป็นโรคเส้นโลหิตดำขอด อักเสบ และบวม โดยให้คนไข้กินเอนไซม์ ผลการศึกษาพบว่า ร้อยละถึง 94 ที่หายสนิท หรือ ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ



  

เอนไซม์ กับ โรคเบาหวาน...
    
การขาดเอนไซม์ไลเปสย่อยอาหาร เป็นผลให้ร่างกายขาดกรดไขมันที่เป็นสารอาหารสำคัญ ทำให้เยื่อหุ้มเซลล์ตามอวัยวะต่างๆของร่างกายบกพร่อง การดูดซึมของสารอาหาร ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ที่บกพร่องจะยากขึ้น จึงทำให้กลูโคสจากเลือดเข้าสู่เซลล์ยาก เกิดการค้างของกลูโคสในกระแส โลหิต ทำให้เกิดกรณีน้ำตาลสูงในเลือด ตามด้วยน้ำตาลสูงในปัสสาวะ การกินเอนไซม์ไลเปสเสริมช่วย จึงทำให้ระดับน้ำตาลลดลง


 เอนไซม์ กับ โรคภูมิแพ้...     ดร.วิลเลียม ลิ้นซ์ ได้รักษาโรคภูมิแพ้ ในคนไข้รวม 472 คน โดยใช้เอนไซม์เสริม ให้คนไข้กิน เอนไซม์ที่ซึมเข้ากระแสโลหิต จะทำหน้าที่ย่อยสารพิษ และสารอาหารที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติ อันเป็นตัวก่อให้เกิดการแพ้ และกำจัดออกไปจากร่างกายในที่สุด อาการแพ้ต่างๆจึงหายไป โรคภูมิแพ้ที่ใช้ เอนไซม์ บำบัดร่วมด้วยได้ผลดี เช่น โรคหอบหืด  ปวดศีรษะ  อาเจียน  ผิวหนังพุพอง ละอองฟาง บวม ลำไส้ใหญ่อักเสบ

เอนไซม์ กับ โรคอ้วน...


      นักวิจัยมหาวิทยาลัยทัฟท์ ได้ทำการศึกษาพบว่า คนอ้วนมากเพราะขาดเอนไซม์ไลเปส ไขมันเป็นส่วนที่ย่อยยากที่สุด การกินเอนไซม์เสริม จะช่วยในการย่อยไขมัน ไม่ทำให้เกิด โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน  โรคหัวใจ หรือ โรคความดันโลหิตสูง


 เอนไซม์ ช่วยทำให้ผิวสวย ไม่แก่ก่อนวัย...
    
เอนไซม์ ช่วยให้ระบบไหลเวียนของโลหิต ไปที่ผิวหนังดีขึ้น ทำให้เซลล์ผิวหนังได้รับสารอาหารครบถ้วน ทำให้เซลล์มีสุขภาพดี ผิวหนังดูเปล่งปลั่ง ไม่เหี่ยวย่นอย่างผิวคนแก่ ดร.เจมส์ บี ซัมเมอร์ ผู้ได้รับรางวัลโนเบล กล่าวว่า "เรารู้สึกตัวว่าแก่เมื่ออายุย่างเข้าสี่สิบปี นั้น เนื่องจากระดับเอนไซม์ ทุกชนิดในร่างกายลดลง"งงงงงงงงงสกง'
 

เอนไซม์ จะเป็นการรักษาหลัก ทางการแพทย์ ในอนาคต...     นายแพทย์ ดี เอ โลเปซ  ดร.นายแพทย์ อาร์ เอ็ม วิลเลี่ยม และนายแพทย์ เอ็ม เมลเคอร์ ร่วมกันเขียนหนังสือ "เอนไซม์บ่อเกิดแห่งชีวิต" กล่าวว่า "เพราะศักยภาพของการใช้เอนไซม์บำบัดมีสูงมากๆ เราเชื่อว่าเอนไซม์จะเป็นวิถีการรักษาแห่งอนาคต"



เอนไซม์ ช่วยแก้ปัญหาการทำงานผิดปกติ ของระบบอวัยะต่างๆในร่างกาย เช่น- ระบบหัวใจและหลอดเลือด เช่น หัวใจ ความดันโลหิต ไขมันในเลือดสูง
- ระบบทางเดินอาหาร เช่น
กระเพาะ ลำไส้ ตับ
- ระบบทางเดินหายใจ เช่น
ไซนัสอักเสบ หอบ หืด โรคปอด
- ระบบผิวหนัง เช่น
กลาก เกลื้อน
- ระบบขับถ่าย เช่น
ริดสีดวงทวาร นิ่วในไต ไตอักเสบ เอสแอลดี
- ระบบกล้ามเนื้อ ไขข้อ เช่น
กล้ามเนื้ออักเสบ เก้าต์ ไขข้ออักเสบ
- ระบบประสาท เช่น
อัพฤกษ์ อัมพาตจากเส้นเลือดในสมองอุดตัน
- ระบบต่อมไร้ท่อ เช่น
เบาหวาน ก้อนที่ต่อมไทรอยด์
- ระบบสืบพันธุ์ เช่น
ความผิดปกติของประจำเดือน สมรรถภาพทางเพศเสื่อม
- ระบบการสร้างเม็ดเลือด เช่น
โลหิตจาง ลูคีเมีย
-
ฯลฯ



หนังสือความรู้เกี่ยวกับเอนไซม์

พลังแห่งเอนไซม์บำบัด                       เอนไซม์ กุญแจแห่งชีวิต